วิปัสสนากรรมฐาน..
ผมได้พยายามแนะนำให้เพื่อนได้ไปทำอานาปานสติเพราะเป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิตของเราเอง
แต่..หลายคนตัดพ้อต่อว่า
ทำยาก..
ผมก็สงสัยว่าทำยากยังไง
แค่ตามดูลมหายใจของเราเองที่เข้า-ออก อยู่นี่เท่านั้น ไม่ต้องลงทุนลงแรงใดๆทั้งสิ้น
บางท่านบอกว่า
ความคิดหรือดวงจิตมันไม่หยุดนิ่งวิ่งพล่านเหมือนลูกลิง
อันนี้ต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่
ก่อนอื่นต้องขอบอกกับท่านว่าผมแค่ให้แนะนำ
ไม่ใช่มีความรู้ที่จะไปเที่ยวสั่งสอนใครได้
การเจริญสติ
ทำสมาธิ มีเป็นสองแบบ..
แบบแรก..คือนั่งดูลมหายใจนิ่งเงียบนานๆ
อยู่ในอารมณ์เดียวเพื่อให้ใจนิ่งและเป็นสุขนั้น เรียกว่า สมถะกรรมฐาน
อันนี้มีมาก่อนพระพุทธเจ้า..
ส่วนที่หลายท่านประสพและมีปัญหาคือ
เรื่องของความคิด ที่วิ่งพล่านไม่หยุด
ก้อ..ปล่อยให้คิดไปซีครับเพราะธรรมชาติของดวงจิตนั้นต้องคิด
เราก็ตามดูความคิดนั้นว่าไปคิดเรื่องอะไร..คิดถึง
พ่อ-แม่-ลูก-เมีย-คนรัก-คนชัง-เจ้าหนี้-ลูกหนี้-หมา-แมว ทุกอย่าง
ตามดูความคิดนั้นไปเรื่อยๆ..เป็นสุขก็รู้ว่าสุข-เป็นทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์-หดเหี่ยว-ฟูเฟื่อง-ฟุ้งซ่าน
จะชอบ-หรือไม่ชอบก็ตามรู้ไปอย่าได้ขาด หรือ หยุดในการทำสมาธิ
พอรู้ตัวก็รีบดึงสติกลับมาทำสมาธิใหม่
(สมาธิคือจิตตั้งมั่น)
ผู้ศึกษาธรรมะชั้นสูงมองจะมองจิตที่ทั้งไปและกลับมาเยี่ยงนี้..จะเห็นถึง
ความเกิด –ดับ
ตรงนี้น่าศึกษาที่สุด
อันนำพาให้เกิดปัญญา
ทำให้..รู้อารมณ์ในปัจจุบัน
หรือที่เรียกว่า รู้ปัจจุบัน รวมไปถึง การยืน เดิน นั่ง นอน ก็ตามรู้ทุกอริยะบท
อันนี้แหละที่เค้าเรียกว่า
วิปัสสนากรรมฐาน..ปัสนะ แปลว่า เห็น..วิแปลว่า แจ้ง- คือการเห็นแจ้ง..เห็นจริง..เห็นตามความเป็นจริงนั่นเอง
และตรงนี้..ที่ทำให้
เจ้าชายสิทธัตถะ ได้สำเร็จมาเป็น อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
เมื่อพระองค์ทรงรู้แจ้งจึงนำมาบอกแก่ชาวโลกให้ปฏิบัติตาม
เพื่อเป็นการหลุดพ้นแห่งความทุกข์ ที่ไม่มีใครที่จะมาช่วยแนะและแก้ไขได้..นอกจากองค์ศาสดาองค์นี้ของเราเท่านั้น
เมื่อเห็นแจ้งแล้ว
ก็จะไม่ยึดถืออะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่ง ความแก่ ก็ธรรมดา..ความเจ็บ ก็ธรรมดา ..จนถึงความตายก็เป็นเรื่องปกติ
ไม่ตกอกตกใจ
ไม่หวาดหวั่น..เพราะผู้คนทั้งโลกที่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ก็จะได้ประสพความแก่
-เจ็บ -ตายนี้เหมือนกันทุกชีวิต
แต่..ถ้าเราทำอานาปานสติ
จนกระทั่งมีปัญญารู้แจ้ง คือ(วิปัสสนา)เตรียมไว้อย่างดีพอ มั่นคง
เราก็จะเป็นผู้รู้
ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ตามพระพุทธองค์
ตรงนี้ไง ที่ผมอยากให้เพื่อนๆได้ปฏิบัติ..ชาวพุทธที่แท้จริง
ไม่ใช่แค่ ทำทาน ใส่บาตร ทำบุญ อันนั้นมันแค่ผิวเผินในความเป็นชาวพุทธครับเพื่อน
เพียรเสาะหา
ครูบาอาจารย์ ที่รู้แท้ รู้จริง แล้วปฏิบัติเดินตามเส้นทางนี้..คือ
อริยะมรรคมีองค์แปดเส้นทางที่พระพุทธเจ้าทรงชี้ไว้ให้
..
ชีวิตที่เหลือไปจากนี้ของท่านจะอบอุ่น ปลอดภัย ไม่วิตกกังวลแม้ความตายจะมาถึง
ครับ..เหมือนมีใบเบิกทางของพระพุทธเจ้าอยู่ในมือ..ไม่ว่า
นรกชั้นไหนหรือขุมไหน ก็ไม่กล้าแม้จะชำเลืองตาเหลือบมามองดูเรา..
เพราะเส้นทางนี้นำพาเราไปให้พบทางสุขคติได้จริงๆ
ขอยึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
พุทธังสรณังคัจฉามิ
********
ชอบเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ
คลิกที่นี่เลยครับ >>http://goo.gl/7OwjVP
เครดิตภาพจาก GOOGLE
Blogger Comment
Facebook Comment