“สติ”เท่านั้นแก้ปัญหาได้
ที่ผ่านมา..ไม่ว่าเราจะคิด-จะทำ-จะพูด..ล้วนถูกควบคุมด้วยกิเลสทั้งนั้นที่มันฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของเรามานาน..ความอยากได้-อยากมี-อยากเป็น
ถูกบงการด้วยกิเลสที่ชักใยอยู่เบื้องหลังมาตลอด
เพราะความไม่รู้ที่เรียกว่า”อวิชชา”
พระพุทธองค์ทรงสอนให้เรารู้จักการกำราบ”กิเลส”ด้วยการทำให้เกิด”สติ”
“สติ”เกิด..”กิเลส”ดับทันที
การทำ
อาณาปานสติ คือการกำหนดลมหายใจเข้ารู้--ออกรู้..เป็นวิธีที่ง่ายสุดเพราะเราต้องหายใจกันอยู่แล้ว
เพียงแต่ให้”ตามรู้”เท่านั้น
สิ่งที่ต้องระวังคือ..
เมื่อเราจะเริ่มปฏิบัติธรรม
ไม่ว่าจะ สวดมนต์-ไหว้พระ ทำสมาธิเพื่อให้เกิดสติ
เจ้าตัวกิเลสมันจะคอยมาขัดขวางตลอด..มันจะดึง จะฉุด จะรั้ง เพื่อไม่ให้เราปฏิบัติ..
จะมีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย..เช่น
ทำไปทำไม?..ทำเพื่ออะไร?..เสียเวลาเปล่าๆสร้างความขี้เกียจ เบื่อหน่าย ตามที่มันพยายามกำหนด
อย่าไปฟัง(กิเลส)มัน
เดินหน้าต่อสู้กับมัน..ก้าวข้ามบันไดผ่านมันไปให้ได้เพื่อมุ่งขึ้นหาองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตามที่พระองค์ทรงชี้แนะเส้นทางแห่งความพ้นทุกข์ไว้ให้
การปฏิบัติธรรมว่าด้วย
“ทาน ศีล สมาธิ” เป็นเรื่องที่ฆราวาสหยั่งพวกเราควรศึกษาเพื่อนำมาปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง
เพราะไม่ต้องลงทุนใดๆทั้งสิ้น..
พระพุทธเจ้าทรงแนะให้รู้ถึงแนวทางการปฏิบัติธรรม”เดินสายกลาง”
คือไม่ตึง และไม่ย่อหย่อนเกินไป ..ทำพอดี-พอดี เพื่อให้เกิดมีสติสัมปชัญญะ
”สติ”เกิด..เท่ากับ”ตัวรู้”เกิด..ทุกเรื่องราว
ทุกปัญหานั้นจะต้องแก้ไขด้วยสติปัญญาอย่างเดียว
ก่อนที่พระองค์จะทรงปรินิพพาน
ได้บอกแก่พระภิกขุที่รายล้อมรอบกายทั้งหลายว่า
“พวกเธอต้องนำความนี้ไปบอกกับทุกคนว่า
โลกใบนี้จะอยู่ได้ก็ด้วยความมีสติเท่านั้น”
พุทธังสรณังคัจฉามิ
********
เครดิตภาพจาก GOOGLE
Blogger Comment
Facebook Comment