เส้นทางสู่ “สุขคติภูมิ”
******
พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า
สาธุชนอย่าได้มีความประมาท เพราะความประมาทคือหนทางแห่งความตาย และ หายนะ..
ความประมาทที่ว่านี้
หมายถึง ความประมาทแห่งชีวิต
เครื่องที่ป้องกันความประมาทคือ”สติ”..สติเมื่อเกิดขึ้นอยู่กับตัวความพลั้งเผลอไม่มี
จะมีแต่ความสุขุมรอบคอบ พร้อมทั้งความประมาทจะไม่มี..ชีวิตก็จะปลอดภัย
ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงปรินิพพาน..พระองค์ได้กล่าวแก่พระภิกษุทั้งหลายให้นำความไปบอกแก่ชาวโลกว่า..
“โลกนี้จะอยู่ได้ดีก็เพราะทุกคนมีสติ”
“สติ”คือการระลึกรู้
-ระลึกได้ วิธีสร้างสติก็คือให้มีความรู้สึกที่ร่างกายได้ทุกอริยะบท ไม่ว่าจะ ยืน
เดิน นั่ง นอน รับรู้กริยาความเคลื่อนไหว และ อารมณ์ของตนเองอยู่ตลอด
โดยเฉพาะลมหายใจ..เพราะเราต้องหายใจตลอดเวลาอยู่แล้ว
เอาจิต มะโน หรือ วิญญาณ ของเราเข้ามารับรู้ที่ลมหายใจที่เข้า-และ ออก..
เรียกว่า
การทำอานาปานสติ..รู้ด้วยตัวของเราคือ หายใจเข้ายาว..รู้ว่าเข้ายาว...หายใจออกยาว
รู้ว่าออกยาว- หายใจเข้าสั้น ..รู้ว่าสั้น –หายใจออกสั้น..รู้ว่าสั้น
ตามดูลมหายใจของเรานี้ไปตลอด..พระศาสดากล่าวว่า
ลมหายใจนี้เป็นกายอันหนึ่งของเรานั่นเอง เรียกว่า กายคตาสติ
คือเอาจิตมาผูกอยู่กับกาย..เปรียบเสมือนบ้านที่มีการคุ้มครอง
ดั่งเรือนมีหลังคาคุ้มฟ้า-ฝน ปลอดภัยจากหมู่มาร หรือ อกุศล หรือ กิเลส ที่จ้องจะเขมือบเราตลอดเวลา
เรือน
จะปลอดภัยเมื่อมีจิต หรือ วิญญาณ มาคุ้มครองรักษากายอยู่ตลอด
พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญผู้ทำอานาปานสติ
แม้แค่เพียงลัดนิ้วมือ (คือชูนิ้วขึ้นแล้วก็งอนิ้วลงเท่านั้น) นี่คือกองบุญมหาศาล
บุญนี้มากกว่าทำทาน
ถวายของแด่หมู่พระสงฆ์ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน..หรือสร้างโบสถ์ สร้างกำแพงวัด
ก็ยังไม่สู้การทำอานาปานสตินี้ไม่ได้
ต้องทำสติให้เกิดขึ้นบ่อยๆทำมากๆ
ทำให้เกิดความเคยชินทำจนเป็นอุปนิสัย.
การรับรู้ลมหายใจนี้ใครจะมารู้แทนเราไม่ได้
เพราะเป็นปัจจัตตัง คือรู้ด้วยตัวของเราเองเท่านั้น
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องละร่างจากโลกนี้ไป
ลมหายใจจะแผ่วลง แผ่วลง และแผ่วลง..สติที่เราเคยฝึกมาตลอดก็จะเกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติและแนบอยู่คู่กับกาย
เมื่อ
รูป-นาม(กายของเรา) ดับ..วิญญาณก็จะดับ เพราะต่างอาศัยซึ่งกันและกัน ( นี้คือปฏิจจสมุปบาท เกี่ยวพันกับ อิทัปปัจจยตา)
“สติ”ที่
สะสมบุญ และ กุศลจะเป็นผู้ประคองตัวเรา(สัตตานัง)ไปสู่ “สุขคติภูมิ”เป็นที่หมาย..ไม่มีทางไป”อบายภูมิ”แน่นอน!!
เชื่อพระพุทธเจ้า
เชื่อคำสอนของพระองค์ ปลอดภัยที่สุดครับเพื่อนๆที่รัก
พุทธังสรณังคัจฉามิ
******
เครดิตภาพ
จาก GOOGLE
Blogger Comment
Facebook Comment