ศาสนาพุทธถึงอเมริกา


ศาสนาพุทธถึงอเมริกา
*********
แทบไม่น่าเชื่อ..เฉพาะในประเทศอเมริกาก่อนนั้นจะมีผู้คนที่นับถือศาสนาพุทธก็จะมีแค่ชาวเอเชียที่อพยพไปจากจีน ญี่ปุ่น เวียตนาม ศรีลังกา ธิเบต  หรือคนไทย เท่านั้น.
ปัจจุบัน..


คนอเมริกันแท้ๆหันมานับถือศาสนาพุทธมากกว่าคนเอเชีย ประมาณว่าไม่น้อยกว่า สิบล้านคน มีการฝึกสมาธิทางพุทธศาสนาเป็นประจำสม่ำเสมอในฐานะชาวพุทธ

อันนี้เป็นข้อมูลการนำเสนอของนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่นำเสนอเรื่องพระพุทธศาสนาในสหรัฐอเมริกา..
คนอเมริกันนั้น มิใช่จะเป็นผู้ที่เชื่อถือหรือศรัทธาอะไรง่ายๆ เพราะการดำเนินชีวิตของเขาคลุกคลีอยู่กับเรื่องทางวิทยาศาสตร์ด้วยเหตุผลที่พิสูจน์ได้ เห็นได้มาตลอดชีวิต

ธรรมะขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมุ่งสู่ตัวตน คือร่างกายและจิตใจของเราโดยตรง

ทางวิทยาศาสตร์ หรือ การแพทย์ จะรู้เกี่ยวกับร่างกายของคนนั้นก็แค่ ตับ ไต ไส้ พุง เซ่งจี๊ ขอบกระด้ง เตรียมไว้ทำต้มเลือดหมูเท่านั้น..

ต่..ศาสดาของเรานั้น รู้ลึกกว่าสิ่งที่พวกเขาจะรู้ได้ และ วิทยาศาสตร์ก็ไม่มีทางจะรู้ได้เลยว่าร่างกายเรานี้มี ขันธ์ห้า คือ รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร และ วิญญาณ

วิทยาศาสตร์จะรู้เรื่อง อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา..คือความไม่เที่ยงเป็นทุกข์และไม่มีตัวตน ได้ยังไง?
 วิทยาศาสตร์ ไม่มีทางรู้ และ เห็น วิญญาณ ที่เกิด-ดับ..เกิด-ดับ อยู่ตลอดเวลาได้..

นี่คือ”ธรรมะ”ส่วนหนึ่งที่นำมาบอกให้รู้ไว้เท่านั้น..

นอกจากศาสดาของเรา ก็จะไม่มีมนุษย์ผู้ใดในโลกนี้จะเป็นผู้รู้ หรือเห็นได้เหมือนพระองค์ เพราะทรงตรัสรู้เป็นสัมมาสัมโพธิญาณด้วยพระองค์เอง

ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ไม่เกี่ยวกับ เวทมนต์ คาถา ไม่เกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับกราบไหว้บูชาน้ำ บูชาไฟ หรือฆ่าสัตว์เพื่อการสังเวยเป็นพิธีกรรมฯลฯ

พระองค์ทรงเป็น สัพพัญญู ที่รู้แจ้งทุกอย่างในโลก สามารถตอบได้ทุกสิ่ง-ทุกคำถามอย่างเป็นเหตุ และ ผล เป็นสัจจะ(ความจริง)ที่พิสูจน์ได้ตลอด..เป็นอกาลิโก ไม่จำกัดด้วยเวลาแม้จะต่อไปอีกหมื่นปี แสน ปี ธรรมะนี้ก็จะคงดำรงค์อยู่

โดยเฉพาะศาสนาพุทธของเราเป็นศาสนาที่เปิดกว้างไม่เกี่ยวเนื่องด้วยผู้ใดจะนับถือศาสนาไหนมาก่อน สามารถนำเอาหลักไปปฏิบัติได้เหมือนกัน

ชนอเมริกันจำนวนมากไม่ได้สนใจนับถือพุทธศาสนา แต่สนใจการฝึกสมาธิเป็นหลักหลังจากฝึกแล้วมีความสุข ทำให้สนใจธรรมะคำสอนพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น ในที่สุดก็เปลี่ยนมาเป็นพุทธมามกะ

นี่เฉพาะที่อเมริกาครับ ยังไม่ได้กล่าวถึงด้านยุโรป..

ครับ..เพื่อนพ้อง น้องพี่ของเรา หยุดลังเลสงสัยในพระรัตนะไตรของเราได้แล้วครับ

มี ศรัทธา(พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)- มีศีล- มีสุตตะ(ทรงจำคำสอนของพระพุทธเจ้า) มีจาคะ (ละความตระหนี่) และ มีปัญญา(เห็นการเกิด-ดับ รูปนาม)

ห้าสิ่งนี้คือเหตุแห่งความสมปรารถนาในชีวิต..มีแต่จะส่งเพื่อนให้ไปแต่ทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม.
.
เดินไปตามเส้นทางนี้เถอะครับ..อย่าไปกังวลว่าจะ เดินผิดทาง-เดินหลงทาง หรือเสียเวลาในการเดิน
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง..อันเป็นวันสุดท้ายแห่งชีวิตของเราที่จะมาถึง ซึ่งต้องมีด้วยกันทุกคน

วันนั้นจะเป็นคำตอบให้เราได้เป็นอย่างดี..
ว่าที่เราได้เดินตามรอยพระพุทธองค์เส้นนี้มาถูกทางแล้ว..โชคดีครับ

พุทธังสรณังคัจฉามิ
******

เครดิตภาพจาก GOOGLE
Share on Google Plus

About noomchingchai

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment