น่าเจ็บปวดผสมน่าอาย
เล่นดนตรีโรงแรมพรพิงค์ เชียงใหม่มาเดือนกว่า พอจะรู้ช่องทางว่า กินที่ไหน? เที่ยวที่ไหน ทลุปรุโปร่ง ชีวิตนักดนตรีนี่ครับ นอนดึกตื่นสายเป็นเรื่องปกติ
เที่ยงกว่าแล้ว..ลุกขึ้นอาบน้ำ แต่งตัวสบายๆ เพื่อออกไปหาอะไรกินก็คงไม่พ้นก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงแรม.เพ็ชรงาม ตรงข้ามกับพรพิงค์แค่นี้แหละ
ก๋วยเตี๋ยวอร่อยคนเยอะเผลอแผล็บเดียวก็หมดแล้ว ตั้งโต๊ะอยู่ริมถนนหน้าโรงแรมนั่งกันแบบสบายๆ
กำลังจะล่อชามที่สอง..
แล้วก็มี..รถสปอร์ตสีแดงแจ๋คันหนึ่ง
เทียบเข้ามาจอดชิดฟุตบาททุกสายตามองดูรถคันนั้นด้วยความทึ่ง
เท่มาก
เท่สุดๆ..ตี๋หนุ่มก้าวฉับๆลงจากรถ เสื้อไหมไทยสีปีกแมงทับ สวมแว่นตากันแดดอย่างดี นาฬิกา
แหวนเพชร สวมเหรดข้อมือแพรวพราววูบวาบบอกถึงลูกอาเสี่ยชัดๆ
ผมจ้อมมองทุกอริยาบทด้วยความทึ่ง เขาก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะก๋วยเตี๋ยวที่ผมนั่งอยู่ห่างกันแค่วากว่าๆ
แล้วตี๋ลูกเศรษฐีคนนั้นก็ยกมือไหว้ผม..ตะเกียบเกือบจะหลุดจากมือโดยอัตโนมัติ ผมยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน ด้วยอาการแบบงง-งง พร้อมพยักหน้ายิ้มให้ตี๋หนุ่มอีกตระหาก
คงเป็นแฟนเพลงตอนดึกมั้ง..
ในตอนนั้นคิดยังงั้น
“สารวัตรมานั่งนานแล้วเหรอครับ”..เสียงตี๋หนุ่มพูดผ่านหัวผมไป
เสียวสันหลังวาบอีกแล้วกรู..
“สักครู่นี่เอง มานั่งกันนี่เลยชัยยง”
เป็นเสียงของตำรวจในเครื่องแบบสี่นายที่กำลังนั่งล่อก๋วยเตี๋ยวอยู่โต๊ะถัดจากผมไป
จากมือที่ยกมารับไหว้ตอบของผมแปรเปลี่ยนเป็นท่าบิดขี้เกียจ
คือยืดสองแขนเหยียดออกไปแล้วก็ดัดนิ้วแบบออกกำลังกาย
กระมิดกระมี้ยนค่อยเอาตังค์วางบนโต๊ะ ไม่ด่ง-ไม่แดก แมร่งแล้วก๋วยเตี๋ยว
ผลุบหายไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วล่องหนแบบหนังกำลังภายใน
เป็นเหี้ยอะไรของกรูวะเนี่ย..ถึงเจอแบบนี้อยู่เรื่อย..
ด้วยเหตุนี้แหละครับที่ทำให้ผมมีจินตนาการแต่ง เพลง”น่าอาย” ให้กับ รอยัลสไปรท์ส
เครดิตภาพจาก : google
หนุ่มชิงชัย
Blogger Comment
Facebook Comment