โคตร
ซ่าส์
ปี 2518 วงบางกอก17 กลับจากใต้หวันครั้งที่สอง
คุณสมชายเจ้าของร.ร.พรพิงค์ เชียงใหม่ขอให้ไปเล่นเป็นเวลาสามเดือน
เพื่อให้แฟนเพลงชาวเชียงใหม่ได้ชมบ้าง
คืนแรกคนแน่นเอียดกว่าจะได้นอนเกือบสว่าง
รุ่งขึ้นบ่ายค่อนเย็นผมออกไปหาซื้อของใช้ที่ยังขาด
ที่ห้างตันตราภัณฑ์ (สมัยนี้ไม่มีแล้ว)กับเพื่อนร่วมห้องอีกสองคน
ฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตา
ติดแหงกอยู่ที่หน้าห้างพร้อมกับผู้คนอื่นๆซึ่งกระดิกไปไหนไม่ได้เลย
ยืนเรียงกันตั้งแต่บันไดชั้นบนจนถึงชั้นล่าง ผมยืนอยู่ขั้นท้ายสุดท่ามกลางฝนที่ตกอย่างบ้าเลือด
ณ.ตรงนั้นไม่ว่าจะมีอะไรผ่านมาทุกสายตาจะต้องจับจ้องมองไปยังสิ่งนั้น
เพราะไม่มีอะไรจะให้ดู
จนกระทั่ง..
มีสามล้อคันหนึ่งฝ่าสายฝนเข้ามาจอด
สาวมั่นนางหนึ่งก้าวฉับๆลงจากรถ..ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมองสายตาของเราประสานกันเต็มๆ
ใจผมแทบหยุดเต้น
คิดในใจ..“คนอะไรวะ
สวยชิปหาย”
ทันทีที่สายตาของเราประสานกัน..เธอเบิกตาโพลงออกอาการดีใจที่ได้เห็นผมพร้อมอุทานออกมาว่า”โอ๊ะ”แล้ว
กางแขนทั้งสองยื่นออกมาข้างหน้า
ด้วยสัญชาติญาณของนักดนตรีโคตรซ่าส์หยั่งผมแขนมันเด้งยื่นออกไปเองแบบอัตโนมัติพร้อมร้อง”โอ๊ะ”เพื่อสอดคล้องกับบรรยากาศ
ณ.ตรงนั้น
เรียกว่า กอดเป็นกอดกันซีวะ
“พี่โตมาถึงเมื่อไหร่คะ”
น้ำเสียงหวานใสของเธอพูดเฉียดใบหูผมไปรู้ได้ทันทีเลยว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว
“เพิ่งลงเครื่องเมื่อตอนบ่ายนี้เองครับ”
ทั้งพี่โต และ คนสวย หาได้มีความรู้สึกเลยว่ามีผมยืนกั้นกลางอยู่ตรงนั้น
และแขนก็ยังยกค้าง อยู่เหมือนคนเป็นอัมพฤกษ์
แต่สายตาของผู้คนนับร้อยที่ยืนติดฝนอยู่ตรงนั้นเห็นเหตุการณ์นี้หมด..
ฟ้าน่าจะผ่าลงมากลางกบาลผมซะตอนนั้นให้รู้แล้วรู้แร่ดไป..ไม่น่าจะปล่อยให้มาซ่าส์ได้อีกจนถึงบัดนี้..
Blogger Comment
Facebook Comment