เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ "ต้อย"เล่าให้ผมฟังในยามที่คุยกันตามประสาคนกลัวผีด้วยกันมาในอดีต
และเมื่อมีพี่-น้อง เพื่อนพ้อง หลายคนบอกว่า หนังเรื่อง ขรัวโต กำลังฉาย
เห็นว่าผมเคยเขียนเรื่อง เศรษฐา กลัวผียังไม่ได้
อ่าน ลงให้ใหม่นะ..จัดให้ครับ
ระหว่าง ต้อย เศรษฐา กับ ผมไม่รู้นะว่าใครจะกลัวผีมากกว่ากันไม่มีใครกล้าชี้ขาด..ส่วนใหญ่บอกว่าสูสี เราสองคนเคยคิดจะตั้งชมรม”ตาแหกสามัคคี”แต่ต้องล้มเลิกเพราะหาสมาชิกไม่ได้..
อ่าน ลงให้ใหม่นะ..จัดให้ครับ
ระหว่าง ต้อย เศรษฐา กับ ผมไม่รู้นะว่าใครจะกลัวผีมากกว่ากันไม่มีใครกล้าชี้ขาด..ส่วนใหญ่บอกว่าสูสี เราสองคนเคยคิดจะตั้งชมรม”ตาแหกสามัคคี”แต่ต้องล้มเลิกเพราะหาสมาชิกไม่ได้..
มารับรู้เรื่องจริงกันดีกว่า..
ช่วงบ่ายวันหนึ่งขณะที่วงอิมฯกำลังซ้อมดนตรีในบาร์ที่
ร.ร.อินทราปรากฏว่าหญิงวัยกลางคนแต่งชุดดำมายืนร้องให้กระซิกอยู่ข้างเวที
สรุปความว่า..ลูกสาวของเธอชื่อ”นิด”ได้ตกน้ำตายเมื่อตอนเช้าและหนูนิดคนนี้ก็เป็นแฟนคนหนึ่งของเศรษฐาในยุคนั้น ดนตรีต้องหยุดซ้อมเพราะหมดอารมณ์..ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน
ต้อย..ต้องเตรียมตัวไปงานรดน้ำศพ
ชักชวนสมาชิกในวงก็ไม่มีใครรับปากว่าจะไปด้วยแถมพูดให้คนฟังต้องสะเทือนขวัญอีกตระหาก
“ถ้าไปฟังสวดศพพอได้..งานรดน้ำศพน่ะใครเค้าไปกันต้องประชันหน้านะว้อย”
สรุปว่างานนี้เศรษฐาต้องไปแต่ผู้เดียว.. อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย..แต่งชุดไว้ทุกข์พร้อมเน็คไทดำอย่างดี ยืนไตร่ตรองถึงคำพูดของเพื่อนๆที่กรอกหูมา..
ในที่สุด..ตัดสินใจไป..แต่จะไปตอนพระสวดช่วงค่ำ
–เกร่ไปเกร่มาจนตะวันโพล้เพล้แน่ใจว่าพิธีรดน้ำศพจบลงแล้ว
จึงนำรถไปจอดที่ข้างศาลาวัด
ประตูรถยังปิดไม่ทันสนิท..คุณแม่หนูนิดก็วิ่งตุ้มป๊ะตุ้มปุ๊ยมาประชิดถึงตัวพูดด้วยน้ำเสียงระล่ำระลัก
“โอย พ่อต้อยดีใจจังที่มา”
“ครับคุณแม่”
“นี่พวกญาติเขาจะปิดฝาโลงกันนานแล้วแต่แม่ขอร้องสัปเหร่อไว้”
“หา”..เศรษฐาร้องเสียงสูงปรี๊ดขนาด
คอร์ดเอ็ฟ เห็นจะได้
ตามภาพ.. เหมือนผู้ใหญ่ที่ฉุดกระชากลากเด็กดื้อไม่ยอมไปโรงเรียนปากก็พร่ำรำพัน
ตามภาพ.. เหมือนผู้ใหญ่ที่ฉุดกระชากลากเด็กดื้อไม่ยอมไปโรงเรียนปากก็พร่ำรำพัน
“อยากให้พ่อต้อยเห็นหน้าน้องเป็นครั้งสุดท้าย”
“โธ่..แม่”
“ไปดูเอาเองเฮอะ..น่าซ้งซ้านสงสาร
ขนาดตายไปแล้วตายังลืมโพลงเหมือนรออะไรอยู่ก็ไม่รู้”
“หา” เศรษฐาร้องสุดเสียง..คราวนี้เสียงสูงขนาดคีย์บีแฟลตโน่น
เครดิตภาพจาก : google
หนุ่มชิงชัย
Blogger Comment
Facebook Comment