ที่มาของวง G.I.BLUES


ที่มาของวง G.I.BLUES

     สรุปว่างานล่องเรือเพื่อหาเงินช่วยเหลือ คุณ วินัย พันธุรักษ์ ในคืนวันที่ 28 พค.นี้ ก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว..

      คือบัตรขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว

     ทีนี้ก็เหลือแต่ความบันเทิงบนเรือสำราญที่จัดเตรียมกันไว้ ส่วนตัวผมมีหน้าที่เล่นดนตรีกับวง จี.ไอ.บลูส์ ที่นำโดยอาจารย์ ฉ่าย..
ฝีมือแต่ละคนไม่ต้องพูดถึงระดับพระกาฬทั้งนั้น.. อ.ฉ่าย ทุกคนจะต้องรู้ดีกับวงThe Beattle nuts เพราะวงนี้ขนาดทางอังกฤษยังได้เชิญให้ไปแสดงถึงที่นั่นมาแล้ว

      แต่เพราะความฝังใจกับเพลง เดอะ ชาโดว์ ที่ตัวเองเหมือนถูกฝังแม่เหล็กไว้ในหัว จึงจัดตั้งวง  G.I. BLUES  เพื่อสนองความมันส์ให้กับตัวเองไปอีกรูปแบบ

      มือกีต้าร์อีกคนคือ อาจารย์ ดวน ศรีสะอาด  ดี.กรี.เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ สยาม ยามาฮ่า คงจะไม่ต้องกล่าวถึงคุณภาพอะไรกันอีกแล้ว
      คนคัดท้ายคือ อาจารย์ ต๊อด ที่ว่ากันว่าเป็นมือกลองดีที่สุดแห่งยุคนี้ สรุปแล้วแต่ละคนระดับ อาจารย์ทั้งนั้น

       มีแต่ตัวผมเท่านั้นที่ใช้เส้นใช้สายเข้าไปในวงนี้เพื่อเล่นเบสส์..ใครๆก็รู้ว่าผมเลิกเล่นดนตรีมาแล้วกว่าสามสิบปี..อาศัยลูก ลุยถั่ว-มั่วเมี่ย..แปะเอี้ย-ถูไถ -ใจกล้า หน้าด้าน..เพื่อเอาตัวรอดไปเป็นครั้งๆก็เท่านั้น

       เพราะเหตุนี้ อ.ฉ่าย ถึงอุตส่าห์ขับรถเอากีต้าร์เบสส์มาให้ฝึกซ้อม..ผมก็มุมานะครับเพื่อไม่ให้เพื่อนๆผิดหวัง
        ฝึกเหมือนตอนหัดเล่นกีต้าร์ใหม่ๆ ทั้งตื่น ทั้ง หลับ ขยับตัวเป็นคว้ากีต้าร์มาดีด
ในที่สุดผลที่ตามมาก็คือ”คอเคล็ด” ไม่ใช่คอกีต้าร์แต่เป็นคอผมนี่แหละ..หยั่งที่เขาเรียกกันว่า”ตกหมอน”ไงล่ะ..
         เช้าวันนั้นหลานชายจอมกวน โผล่เข้ามาหาที่ห้อง มันชื่อไอ้ต้อยสารพัดรู้ไปทุกเรื่อง ไม่รู้เพียงอย่างเดียวคืออ่านหนังสือ

“น้าชัย เป็นอะไร” ..มันเห็นผมมองมันแบบเอียงคอมอง
“คอเคล็ดว่ะ”
“ไปทำอะไรมา”
“หัดดีดกีต้าร์ ..มันหนักยกไปยกมาคอมันเคล็ด”
“แก่แล้วไม่เจียมตัว ยังจะเล่นเป็นเด็กๆอีก”..แม้จะเป็นเรื่องจริงของมัน..แต่ก็อยากโดดถีบให้เต็มตีน

     ไอ้ต้อยมันแนะผมให้เอาหมอนไปตากแดด..แล้วมาวางกลางห้องโดดข้ามไป-ข้ามมาสามครั้งผมก็ยอมทำตามแต่ไม่ได้ผล

“เอายังงี้” มันอ้าปากจะพูด..ผมสวนก่อน
“เอาหยั่งกูว่าดีกว่า เอ็งไปซื้อยามาให้กูที”
“ยาอะไร”..ไอ้ต้อยถาม
“เคาน์เตอร์ เพน”
“โอ..เรียกยาก ยาหม่องดีกว่ามั้ง”
“ไม่ยากหรอกน่า เอ็งจำบาร์เบียร์ได้มั้ย ไอ้ที่คนขายอยู่ในคอกเค้าเรียกอะไร”
“เคาน์เตอร์”..มันว่า
“เก่งโว้ย..แล้วเอ็งก็เอาคำว่าเพนต่อเข้าไป..เอางี้พระฉันข้าวกลางวันเรียกว่าอะไร”
“ฉันเที่ยง”..
“ม่ายช่าย..เค้าเรียกฉันเพลโว้ย เอ็งเอาสองคำนี่มาผสมกัน”
“รู้ละ รู้ละ เคาน์เตอร์พระฉันท์เพล” ไอ้ต้อยแสดงความฉลาด
“เออ นั่นละ ถูกต้องเลยหลานรักเก่งมาก”

        แล้วมันก็คว้าตังค์แผ่นแน่บไปทันที เพราะเป็นคนคล่องแคล่วว่องไว แต่โง่ปานควาย พักเดียว มันก็โผล่กลับมายืนที่หน้าประตู..
“น้าชัย ร้านขายยาเค้าบอกว่ายาชื่อนี้ไม่มี..คนขายบอกว่าเกิดมาไม่เคยได้ยิน”
“เอ็งบอกเค้าว่ายังไง”
“ขอซื้อยาเคาน์เตอร์เที่ยง หลอดนึง”

“ไอ้ เหี้ย”..

ผมตระโกนสุดเสียง จนรู้สึกว่าคอระบมหนักขึ้นไปอีก



                        ****

           ครับ..ท่านที่มีบัตรแล้วพบกันบนเรือวันเสาร์ที่ 28นะครับ..คอยสังเกตุดูสีหน้าเพื่อนร่วมวงผมก็แล้วกันอาจมีบางคนโดดน้ำหนีก็ได้..สวัสดีครับ

อังคาร ที่10 พค.2559

Share on Google Plus

About noomchingchai

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment