วันนี้ วันพระ
ขึ้น๘ค่ำ เดือน๖ ปีวอก
*****
พระพุทธองค์ทรงสอนให้กำหนดรู้”สติ”..ด้วยการทำ”อานาปานสติ”
วิธีนี้คือ๑ใน๔๐วิธี ซึ่งเป็นการดูลมหายใจของตัวเอง..
สืบสอนตกทอดกันมากว่าสองพันปี..
ผมเป็นผู้หนึ่งที่ตระเวนไปทำการปฏิบัติธรรมหลายแห่ง-หลายที่
บางที่ ๗คืน๘วัน นั่งทำสมาธิ เดินจงกลม สวดมนต์ ฟังบรรยายธรรม
ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น..
แต่ละแห่ง
แต่ละที่-ให้ใช้กำหนดกรรมฐานแตกต่างกันไป.. พุทโธ บ้าง..สัมมาอรหัง บ้าง..เข้า-ออก
บ้าง หรือ ยุบหนอ-พองหนอ บ้าง..
การนั่งทำสมาธิ
ด้วยการเจริญสติ ดังที่กล่าวมานี้ขึ้นอยู่กับเจ้าของสำนักซึ่งใช้เวลาไม่เหมือนกัน
บางแห่งนานเป็นชั่วโมงก็มี..หรืออาจจะมากกว่านั้น..
และ..หลายสำนักก็ไม่บอกด้วยว่า
การทำ อานาปานสติ นั้นผู้ที่ทำจะได้รับผลหรือประโยชน์ในการที่เจริญภาวนามาก-น้อยขนาดไหน?
เมื่อผู้ปฏิบัติธรรม
ไม่รู้ หนักเข้าก็เกิดความเบื่อหน่าย..เพราะไม่รู้จุดประสงค์หรือเป้าหมายว่าการทำเช่นนี้
ผลที่ได้รับจากการเจริญสมาธิคืออะไร?
บางรายก็เลิก
หรือหยุดไปเลย..(น่าเสียดายมาก)
การทำ”อานาปานสติ”หรือเจริญภาวนา
คือสุดยอดแห่งการปฏิบัติธรรมะทั้งหลาย ดีกว่า สร้างโบสถ์-สร้างวัด-สร้างศาลา-หรือ
ทำบุญ ทำทานใดๆทั้งสิ้น
อันนี้เป็น”พุทธวจน”
ที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้..
เพราะสิ่งที่เกิดจากการทำ”อาปานสติ”ตัวที่เกิด”สติ”นั้นเป็นบุญกุศลมหาศาล..และสามารถสกัดกั้นอกุศล(กิเลศ)ทั้งหลายไม่ให้เกิดขึ้นมาได้
“กุศล” กับ “อกุศล”
จะเกิดขึ้นพร้อมกันไม่ได้
ทำมากเข้า-มากเข้า-บ่อยเข้า-บ่อยเข้า
กิเลศที่นอนเนื่องอยู่ในใจเราก็จะหมดไป
นี่ไงครับ
คือสิ่งที่เราต้องรู้ ไม่ใช่ทำตามกันไป ตามเพื่อนไป ตามญาติไป..เขาบอกว่าดี-ก็ดี
..แต่ไม่รู้ว่าดียังไง
พระพุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่ทำอานาปานสติ
เพียงแค่ลัดนิ้วมือ(หมายถึง
ชูนิ้วขึ้นแล้วก็งอนิ้วลงเท่านั้น)..กับผู้ที่มีอายุมากถึงร้อยปี
แต่ไม่เคยกำหนดรู้สติมาเลย
พระองค์ทรงสรรเสริญ
ผู้ที่ทำอานาปานสติ มากกว่า
ครับ
เจริญภาวนา กำหนดรู้สติบ่อยๆเถอะ..ดีแน่ครับ ดีแก่ชีวิตของเราเอง ที่จะให้ใครมาภาวนาทำแทนเราไม่ได้ เพราะลมหายใจของเรานั้นคือกายของเรานั่นเอง
พุทธังสรณัง
คัจฉามิ..ขอบารมีขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสรณะที่ยึดเหนี่ยวตลอดไป
****
ศุกร์ ที่ ๑๓
พค.๒๕๕๙
Blogger Comment
Facebook Comment