เมื่อปีพอ.ศอ.2517 ..ในปีนั้นมีนักดนตรีไทยไปแสดงเกาะไต้หวันดินแดนที่ว่ามี”หมวย”สวยสุดๆ ถือเป็นการบุกเบิกที่ทำกินของนักดนตรีไทย
และเพื่อให้ผู้คนรับรู้และจดจำได้ง่ายว่าเป็นคนไทยจึงใช้ชื่อวงดนตรีว่า ” บางกอก17”คนจีนที่นั่นเรียกว่า”มั่งกู๋
สือชี๊”
ผมมีโอกาสร่วมไปด้วย..และเป็นครั้งแรกที่ต้องอยู่ในต่างแดนแบบยาวนาน..ถึงสองครั้ง-ครั้งละหกเดือน-ในช่วงเวลาสองปี
ไม่ว่าจะ
โฮมซิก-โฮมอะโลน-โฮมสวีทโฮม-โฮมสะเตย์-โฮมโปร ได้รับรู้รสชาติมาหมดแล้ว
สิ่งที่ทำให้หูผมต้องระบม..ก็คือคำถามของประดา”หมวย”ทั้งหลายที่ถามกันให้แซ่ดว่า
“อาภัสรา หงสกุล” สวยมั้ย?..และสวยขนาดไหน?
“เพี่ยวเลี่ยง”..ผมตอบกับทุกคน..แปลว่า”สวยมาก”
การสื่อสาร..ในช่วงที่”อาภัสรา”เป็นนางงามจักรวาลยุคนั้นภาพและรูปถ่ายของเธอไม่สู้จะมีให้เห็นกันเกลื่อนเหมือนสมัยนี้..
เอาเป็นว่า..ถ้าใครไปต่างแดนและสัมผัส”ระดับพื้นบ้าน”..จะรู้ได้เลยว่าภาพพจน์ความเป็นคนไทยของเรานั้นสวยสด-งดงามมาก..”ไท้กว๋อเหลิน”
คือคำที่ใช้เรียกชื่อพวกเรา
นักดนตรีฟิลิปปินส์ซึ่งเคยครองเป็นเจ้าถิ่นมาก่อนต้อง”หลุดเฟรม”ไป..ทันทีที่พวกเราไปแสดงที่นั่นเพราะเขาชอบรอยยิ้ม-นอบน้อม-และจริงใจ
ของเรา
ทุกคำพูดของคนที่ไต้หวันยังคงก้องอยู่ในใจผมตราบเท่าทุกวันนี้..แม้จะผ่านมานานถึง40ปีเขาพูดว่า”ยิ้มของคนไทยเป็นยิ้มที่บริสุทธิ์เห็นแล้วชื่นใจ”..
ทั่วทั้งโลกยกย่องและเรียกเราว่า”ยิ้มสยาม”เพราะคนไทยทุกคนต่างก็มีใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอด..
ครับ..ทุกวันนี้เราก็ยังคงมีใบหน้าที่”เปื้อนยิ้ม”เหมือนเดิม..เพียงแต่ว่ามีดาบ”เปื้อนเลือด”เหน็บไว้ข้างหลังเท่านั้น..อุแม่เจ้า
หนุ่ม ชิงชัย
Blogger Comment
Facebook Comment