ชีวิตอย่าประมาท
********
พี่-น้องเอ๋ย
เพื่อนเอ๋ย..
ทุกวันพระที่ผ่านมาผมจะพยายามโพสเรื่องธรรมะเพื่อเตือนสติให้แก่ท่านเท่านั้น
ว่า..อะไรควรที่น้อมนำเข้ามา
และอะไรควรจะปล่อยให้ผ่านไป..วัน เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วและสิ่งที่ทุกคนจะได้รับในท้ายสุดของชีวิตคือ”ความตาย”แน่นอน
“ความตาย”
มีอยู่สองทางที่จะไปคือทางไปสู่ “สุขคติภูมิ” กับ “อบายภูมิ”
ผมไม่ได้บอกให้ท่านเชื่อผมในการที่ให้คำแนะนำ
ท่านจะเชื่อหรือไม่นั้นมันก็อยู่ที่ตัวของท่านเอง
เพราะพวกเราต่างก็มีอายุมากขึ้นตามกาลเวลาและได้ ใช้ชีวิตกันมาอย่างมากมาย
เท่าที่เชื่อมโยงกันทาง”เฟสบุก”แห่งนี้ทำให้ได้รับรู้การเสียชีวิตของบรรดาเพื่อนเราที่ตามกันไปแล้วหลายท่านและเจ็บป่วยอยู่อีกหลายคน
น่าเสียดายที่บางคนจากไปแล้ว-ไปเลยแบบว่างเปล่า
ไม่มีทิศทาง
ผมมิได้มีความรู้ที่จะไปสั่งสอนผู้ใดเกี่ยวกับธรรมะ
หรือ การปฏิบัติธรรม..ทำได้เพียงแค่ช่วยเตือนสติให้ท่านและเพื่อนๆนักดนตรีทั้งหลายเท่านั้น
ครูบาอาจารย์
หรือ ภิกขุสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น..ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องแก่ท่านได้
แต่..ท่านเหล่านั้นก็ต้องน้อมนำคำสอนที่แท้จริงขององค์ศาสดามาสอน..มิใช่บิดเบือนหรือต่อเติมกันเอาเอง(ตรงนี้ที่ต้องระวังเพราะจะเป็นมิจฉาทิฏฐิ)
การแสดงอิทธิฤทธิ์
เสกเสา เป่ากระหม่อม พรมน้ำมนต์ บังสะกุลเป็น บังสะกุลตาย ให้ไปนอนในโลงศพ เป็นต้น..
สิ่งเหล่านี้พระพุทธเจ้าไม่เคยสอน
และทรงตรัสว่าเป็น ดิรัจฉานวิชา
พระองค์ทรงเตือนไม่ให้”ประมาท”..คือไม่ให้มีความประมาทในชีวิต
หลักๆของพระองค์ก็คือ
ให้รู้กาย รู้ใจตนเองตลอด..เอาลมหายใจแนบไว้กับกาย ด้วยการทำอาณาปานสติ
รู้ลมหายใจเข้าออกของตัวเอง
ทำให้เกิด”สติ”อันเป็นบุญมหาศาล..สติเกิดความประมาทจะไม่มี
มีศีลห้าให้ครบ
เจริญภาวนา(ทำบ่อยๆ)ให้มากขึ้น..อย่าปล่อยเวลาว่างๆให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์
เมื่อ..ถึงเวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตที่จะมาถึง..เราจะไม่หวั่นไหว
และไม่วิตกต่อสิ่งใดๆทั้งสิ้น
ถ้า..อบายภูมิ
อยู่ทางซ้าย..สุขคติภูมิ อยู่ทางขวา
“ทางขวา” นี่แหละ..เป็นที่พึงหวังได้แน่นอนครับ
พุทธังสรณังคัจฉามิ
******
เครดิตภาพจาก GOOGLE
Blogger Comment
Facebook Comment