รักแรก..



รักแรก..

เชื่อว่า..ทุกคนต้องมีรักแรกด้วยกันทั้งนั้น..เพราะความรักเป็นของคู่มากับโลกเพียงแต่ว่าบางคู่พบกันแค่ครั้งเดียว บางคนแอบรักเขาข้างเดียว..สุดแต่ว่ารักแรกของใครจะอยู่ในสภาพไหน

รักแรก เป็นรักที่น่าทะนุถนอม-น่าจดจำและมีความประทับใจ


ความรักครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องอยู่กินกันฉันผัวเมีย เพราะบางคู่มิได้เสร้างบุญกุศลผูกพันกันมาตั้งแต่ในอดีตชาติ..อาจจะทำบุญร่วมกันเพียงแค่ผ่านพบ

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีรักแรก..ความจริงน่าจะเรียกว่ารักแร่ดมากกว่า..เพราะตอนนั้นเรียนอยู่มัธยมหกอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น แร่ดจริงๆ

จำได้หยุดเทอมช่วงนั้นเพื่อนชวนไปเที่ยวที่บ้านยายของมันอยู่ที่ลาดกระบังนี่เอง

แต่..เมื่อห้าสิบปีที่แล้วจะไปลาดกระบังต้องนั่งรถไฟสายอรัญฯ ไปลงสถานีลาดกระบัง แล้วจึงต่อเรืออีกที จากนั้นไปขึ้นท่าน้ำที่หน้าบ้าน ทุกบ้านจะมีท่าน้ำเหมือนกันหมด

บรรยากาศรอบๆบ้านเต็มไปด้วยธรรมชาติแห่งทุ่งนาสูดหายใจกันได้เต็มอิ่ม-เต็มปอด มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นข้าวเขียวขจีสุดลูกตาชื่นใจจริง

ทำให้นึกถึงเพลงทุ่งรวงทอง ของ ครูชาลี อินทรวิจิตร ที่แต่งไว้..ใช่เลย!

ไอ้ปุ๊เพื่อนร่วมห้องเรียนมันชวนผมมาเที่ยวในครั้งนี้..เพราะบ้านยายของมันกำลังจะเริ่มลงแขกซึ่งอยู่ในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวที่เหลืองสะพรั่งเต็มท้องนาถึงเวลาแล้ว

บรรยากาศเยี่ยงนี้เป็นประเพณีโบรานของชาวนาที่น่ารักมาก..เป็นการผลัดกันนำแรงงานมาช่วยที่เรียกว่าลงแขกปัจจุบันไม่มีแล้ว..น่าเสียดาย

วันรุ่งขึ้น..อันเป็นวันแรกเริ่มของการลงแขก”..ผม ไอ้ปุ๊ แม่(น้าสาคร)ที่มาพร้อมกับน้องสาวอีกสองคนก่อนหน้า และญาติผู้หญิงอีกหลายคน ช่วยกันทำอาหารหุงข้าวหุงปลาเพื่อเตรียมรับพวกที่ไปเกี่ยวข้าวกลับมากินข้าวเย็นที่กลางลานบ้าน

พอดวงอาทิตย์หรี่แสงลง ชาวนาที่ร่วมไปลงแขกทยอยเดินลัดทุ่งนากันมาเป็นแถว ต่างถือเคียวประจำตัวแต่งชุดดำมีหมวกกันแดดและผ้าขาวม้าพาดไหล่คุยกระหนุงกระหนิงมาเป็นคู่ๆ ประมานสามสิบกว่าคน


ครับ..พวกที่เตรียมอาหารอยู่ทางบ้านรวมทั้งตัวผมมีหน้าที่ยกหม้อข้าว-หม้อแกงเตรียมบริการอย่างสุดๆเพื่อไม่ให้มีอะไรขาดตกบกพร่อง..

ทุกคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อยเสร็จจากอาหารก็มาล้อมวงคุยและร้องรำทำเพลงกันอย่างมีความสุขอันเป็นประเพณีที่ชาวนาบ้านเราทำกันมาเป็นประเพณี

จนค่ำมืด.
.
ผมยืนมองดูอยู่ห่างๆอย่างสุขใจ..

สิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยและเป็นแรงดึงดูดให้สนใจคือมีเด็กผู้หญิงคนเดียว อายุประมาน 15-16ปีมาร่วมเกี่ยวข้าวอยู่ในกลุ่มด้วย เธอสนุกสนานหัวเราะร่าเริงอย่างสดใสกับ ลุงๆป้าๆ น้าอาทั้งหลายอย่างน่าอิจฉา

น้าสาคร แม่ไอ้ปุ๊ อธิบายให้ผมฟังว่า..

หนูนิดเป็นลูกคนเดียวของพ่อ-แม่ มีที่นามากที่สุดในย่านนี้อยากให้เธอเป็นเจ้าของที่นาจึงให้เรียนรู้เฉพาะการทำนาปลูกข้าวอย่างเดียว

ไม่เรียนหนังสือหรือครับ”..ผมถามเพราะสงสัย

รู้สึกว่าจะเรียนแค่ ปอ.สอง หรือไงนี่แหละ

เฮ้อ..น่าเสียดายจัง..ผมเปรยด้วยความจริงใจเพราะห่วงอนาคตเธอ

วันต่อมา..การลงแขกเกี่ยวข้าวก็ดำเนินต่อ กลางวันทุกคนจะพกห่อข้าวมาจากบ้านกินกันเองกลางทุ่งนาตามร่มไม้ แต่จะมาสนุกมื้อใหญ่ก็ตอนเย็นนี่แหละ

ค่ำนั้น ผมมีโอกาสเอากระติกน้ำแข็งไปยื่นให้หนูนิด..เธอมองดูผมพร้อมทำหน้าออกอาการสงสัยเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

เป็นลูกเต้าบ้านไหนเนี่ย”..เธอเอียงคอถามผมเหมือนผู้ใหญ่ถามเด็ก

ผมยิ้มหวานให้เธอพร้อมพูดอย่างสุภาพนอบน้อม..ขออาศัยเพื่อนมาจากบางกอกอยากจะทำนาดูบ้างจ้ะ

เธอเพ่งมองสาระรูปผมแล้วก็หัวเราะอย่างขบขันเต็มที่..

ขี้ก้างอย่างนี้เหรอจะมาทำนา..เธอพูดชัดถ้อยชัดคำแล้วก็หัวเราะชอบใจอีกเพราะรูปร่างผมเหมือนไม้เสียบผีจริงๆ

เวลาที่เธอยิ้มหัวเราะน่ารักมาก ฟันสวย ตาคม ผิวแม้จะคล้ำแต่มีเสน่ห์ชวนมอง

ค่ำนั้นมีโอกาสได้คุยกันนาน..แล้วก็สรุปได้ว่า เธอ คุยเก่ง อารมณ์ดี ยิ้มง่าย น่ารัก

อยากจะเอ่ยถามเรื่องการเรียนของเธอเพราะเป็นห่วง..แต่เกรงว่ามารยาทจะดูไม่งามจึงไม่กล้าถามแม้ปากจะคันยิบๆ..

ผมอยู่ช่วยที่บ้านยายไอ้ปุ๊ต่ออีกสามวัน จำเป็นต้องกลับมากรุงเทพฯเพื่อเตรียมตัวหาที่เรียนใหม่..หลังจากที่จบมอ.หก.อย่างทุลักทุเลจากโรงเรียนเก่า

ค่ำคืนวันสุดท้ายของผมที่บ้านท้องนา..

มีโอกาสคุยกับนิดอย่างสนิทสนมมากขึ้น..เพราะมุกและลูกเล่นผมเหลือแดก

ผมนำเอาเรื่องต่างๆแปลกๆมาเล่าให้เธอฟังอย่างสนุกสนาน ซึ่งทำให้เธอได้หัวเราะมากๆ เพราะยิ่งหัวเราะก็ยิ่งมองดูน่ารัก เรื่องแบบนี้ผมถนัด

เธอเรียกผมว่าพี่ชัย”..และผมก็เรียกเธอว่าน้องนิด

กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว..

ก่อนล่ำลาคืนนั้น..ผมบอกเธอว่าถ้าจะเขียนจดหมายมาคุยบ้างจะได้ไหม

เธอบอกว่ายินดี..ให้ถามที่อยู่เอาจากพี่ปุ๊นะ

กลับมานอนกรุงเทพฯสามคืนแล้ว แต่จิตใจผมยังวนเวียนอยู่แถวท้องนาลาดกระบังโน่นแน่ะ
หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน..ยิ่งกว่าหนังเรื่องเบอร์นาดีนซะอีก

รุ่งขึ้น..ไปร้านถ่ายรูป..จัดการส่งรูปแนบให้น้องนิดตามที่เคยบอกไว้

ด้วยความเก๋าผสมความเชยผมแต่งกลอนแล้วเขียนไว้ที่หลังรูปเพื่อให้เธอเห็นแล้วประทับใจ
เขียนว่าดั่งนี้..

รูปพี่ไม่สวย ให้ด้วยใจจริง
รับแล้วอย่าทิ้ง รักจริงจึงให้

สั้น-ง่าย.. ความหมายกว้าง

รออยู่เกือบสิบวัน จึงมีจดหมายส่งมาพร้อมรูปของเธอแนบมาในซองด้วย
ลองอ่านจดหมายของคนที่เรียนหนังสือปอ.สอง..เธอเริ่มอย่างนี้ครับ

พี่เป็นคนเกียสูง น้องเป็นคนเกียต่ำ
(แปล..พี่เป็นคนมีเกียรติสูง น้องเป็นคนต่ำต้อย)
น้องส่งรูมาให้พี่สองรู
(แปล..น้องส่งรูปมาให้พี่สองรูป..ตก ป.ปลา)
รูนั่งหนึ่งรู รูยืนหนึ่งรู
(แปล..รูปนั่งหนึ่งรูป รูปยืนหนึ่งรูป)
ถ้าพี่ต้องการรูใหญ่กว่านี้ น้องจะให้ช้างช่วยขยายมาให้ใหม่
(แปล..ถ้าพี่ต้องการรูปใหญ่กว่านี้ น้องจะให้ช่างช่วยขยายมาให้ใหม่)

อ่านจบแม้จะเหนื่อยสักหน่อย แต่ก็ประทับใจสุดๆ

ท่านเคยฟังเพลง ทุ่งรวงทอง จากเสียงร้องของ ชรินทร์ นันทนาคร มั้ยครับ

ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง..เห็นข้าวออกรวงน่ามอง
ดุจแสงทองสีแห่งศรัทธา..พี่มาได้ยล-นฤมลนวลน้องบ้านนา
ถึงจะสวยตามประสา..ก็โสภาเหนือกว่านางใด..

เพลงนี้แว่วมาทีไร..ขนของผมจะลุกตั้งชันเด่ขึ้นมาทุกครั้ง

ก็เพราะมันเป็นความประทับใจ และเป็นความรักครั้งแรกของผมนี่ครับ..เหตุการณ์ห้าวันที่บ้านนาลาดกระบังครั้งนั้นผมไม่มีวันจะลืมอย่างเด็ดขาดชั่วชีวิตนี้

แม้จะเป็นการพบกันครั้งแรกและ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น..

รักแรกจึงเป็นรักที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง..

แล้วของท่านล่ะ??..อย่าบอกนะว่าไม่มีรักแรก

*******


วันชัย ๙ มีนาคม ๒๕๕๙

เครดิตภาพจาก GOOGLE
Share on Google Plus

About noomchingchai

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment